การดูแลรักษาเต็นท์

สวัสดี เพื่อนนักเดินทางทุกท่านครับ ในฐานะที่เป็นเจ้าของร้านอุปกรณ์เดินป่า แค้มปิ้ง ที่ขายอุปกรณ์สำหรับซ่อมแซมเต็นท์ด้วย ผมค้นพบว่า ผู้ใช้เต็นท์ส่วนใหญ่มีการดูแลรักษาเต็นท์ที่ไม่ถูกวิธี หรือบางทีก็ไม่ได้ดูแลรักษาเลย ซึ่งเป็นเหตุให้เต็นท์เสื่อมสภาพไวมากกว่าที่ควรจะเป็นครับ หลายคนมักจะไปหวังพึ่งประกัน ซึ่งส่วนใหญ่เงื่อนไขการรับประกันนั้นจะคลอบคลุมที่กรณีความผิดพลาดจากการผลิตเท่านั้น ส่วนกรณีการเสื่อมสภาพจากการใช้งานปกตินั้นจะไม่อยู่ในเงื่อนไขของการประกัน แต่เต็นท์ก็เหมือนกับคนครับ มีเกิดมีดับไปตามอายุการใช้งาน  ไม่ว่าประกันจะยาวนานแค่ไหน สุดท้ายถึงเวลาก็ต้องปล่อยไปตามสภาพของสังขาร ซึ่งคงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่ามาก ถ้าหากว่าเราสามารถดูแลเต็นท์ได้อย่างถูกต้อง ทำให้เต็นท์ของเราสามารถที่จะใช้งานได้นานๆ 

สาเหตุอีกประการหนึ่งที่ ผู้ใช้ควรจะมีความรู้เบื้องต้นในการดูแลอุปกรณ์ก็คือ กิจกรรมการเดินป่า แค้มปิ้ง เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความรู้ครับ บางกรณีอุปกรณ์ทำงานผิดพลาด จากการไม่ดูแลรักษา ก็อาจจะถึงขั้นบาดเจ็บ ล้มตายกันได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่อง วิธีการดูแลรักษาเต็นท์ให้ฟังกัน โดยอ้างอิงจากตำราของ NOLS 

NOLS คืออะไร ?

NOLS ย่อมากจาก Natonal Outdoor Leadership School หรือ โรงเรียนสอนความเป็นผู้นำจากการเดินป่า  ซึ่งมีประวัติมายาวนาน เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1965 ในรัฐไวโอมิ่ง ประเทศสหรัฐอเมริกา NOLS ทำหน้าที่ในการเปิดหลักสูตรสอนการเดินป่า แค้มปิ้ง การใช้ชีวิตกลางแจ้ง โดยเน้นให้ผู้เรียน มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ปัจจุบัน NOLS มีหลักสูตรที่หลากหลายให้เลือก ใครสนใจลองไปดูรายละเอียดใน webstie ของเค้าครับ  https://www.nols.edu

ดูแลรักษาเต็นท์อย่างไร ?

ก่อนอื่นเราต้องทราบกันก่อนครับว่า รังสี UV จากแสงแดด และ น้ำ เป็น 2 อันตรายหลักที่ทำอันตรายต่อเต็นท์ของเรา ถึงแม้มันอาจจะฟังดูแปลกเสียหน่อย เพราะโดยปกติขึ้นชื่อว่าเต็นท์มันก็ต้องใช้งานอยู่กลางแดด กลางฝน อยู่แล้วครับ แต่ความอันตรายของการตั้งเต็นท์ไว้กลางแดดกลางฝนนั้นไม่ได้มีอันตรายต่อเต็นท์มากเท่าไหร่ ถ้าเราไม่ได้กางทิ้งไว้ตลอดเวลา ถ้าเราเป็นคนท่องเที่ยวปกติที่เอาเต็นท์ออกไปใช้เฉพาะวันหยุด หรือไปบาางอาทิตย์ ยังไงอันตรายจากแสงแดดและน้ำ ก็เทียบแล้วยังน้อยกว่าอันตรายที่เกิดจากการจัดเก็บเต็นท์ที่ไม่ถูกต้อง

วิธีที่ดีที่สุดในการดูแลเต็นท์ก็คือ เวลาที่คุณเสร็จกิจกรรมเดินป่า หรือแค้มปิ้ง เดินทางกลับถึงบ้านแล้ว ให้ทำความสะอาดเต็นท์ด้วยฟองน้ำเช็ด ด้วยน้ำเปล่า หลังจากนั้นผึ่งลมให้แห้ง

ถ้าหากเราเก็บเต็นท์ตอนที่เปียกหรือมีความชื้นอยู่ สิ่งสกปรก ความร้อนจากอุณหภูมิห้อง และ น้ำ จะทำให้แบคทีเรียเติบโตขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลให้สารเคลือบกันน้ำของเต็นท์เสื่อมสภาพได้

การเก็บเต็นท์แนะนำให้เก็บหลวมๆ นะครับ ควรเก็บเต็นท์ในถุงหลวมๆ ที่อากาศถ่ายเทได้ดี ถ้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิซึ่งอาจจะทำให้เกิดการควบแน่นของความชื้นในอากาศขึ้น อย่างน้อย ความชื้นจะได้ระบายออกได้

เสาเต็นท์ถ้าเก็บให้ดีที่สุด คือต้องต่อกันให้หมด ซึ่งจะทำให้ เชือกยางยืด (shock cord)ที่ร้อยเสาเต็นท์เข้าด้วยกัน จะได้รับแรงน้อยกว่า แต่แน่นอนว่า เสาเต็นท์ที่ต่อกันยาวมันค่อนข้างจัดเก็บลำบาก อย่างน้อยการพับและเก็บในถุงหลวมๆ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้

ตอนที่จะเก็บเต็นท์ ให้พับเก็บเสาจากตรงกลางก่อน แล้วค่อยๆพับจากตรงกลางออกไป แทนที่จะเริ่มพับเก็บจากปลายข้างใดข้างหนึ่ง สาเหตุก็คือเพื่อลดแรงกระทำที่เกิดกับเสาและเชือก ลองนึกภาพเราจับเสาไว้ด้านเดียว ด้านนั้นก็จะต้องรับน้ำหนักของเสาทั้งหมดไปด้วย

ก่อนที่จะเอาเต็นท์ไปออกทริป ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซีลกันน้ำที่ตะเข็บเต็นท์ยังอยู่ในสภาพดี อาจจะทาซีมซีลที่ด้านนอกเเต็นท์เพิ่มได้ ก็จะช่วยให้อายุซีลยาวนานยิ่งขึ้

ซิปจัดเป็นชิ้นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของเต็นท์ เพราะถ้าหากเราดึงซิปแรงเกินไป จนซิปแตก แล้วละก็ ตัวเต็นท์เองก็อาจจะไม่สามารถปกป้องเราจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้ เพราะฉะนั้น เวลาใช้ซิป จงนุ่มนวลไว้ครับ

ข้อแนะนำสำหรับการใช้ซิป

การใช้เทียนไขเล็กน้อย หรือไม่ก็ลิปบาล์ม  จะช่วยให้ซิปลื่นขึ้นได้ หรืออาจจะใช้พวกชุดหล่อลื่นสำหรับซิปก็ได้

ให้ใช้ 2 มือ ในการเปิดและปิดซิป

ถ้าซิปมีเศษดินโคลนติดอยู่ ทำความสะอาดด้วยแปรงสีฟัน หรือ แปรงทาเล็บ

ถ้าจำเป็น ควรพกซิปสำรอง และแน่นอนว่าคุณต้องรู้ว่าจะเปลี่ยนมันยังไงด้วยนะครับ

ที่กล่าวไป นั่นคือเคล็ดลับของการดูแลรักษาเต็นท์ให้มีอายุยืนยาวจาก NOLS หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ ยังไงอ่านจบแล้วก็อย่างลืมดูแลรักษาเต็นท์ให้ดีด้วยนะครับ