จัดการอย่างไรกับเชื้อรา และกลิ่นในเต็นท์

สวัสดีครับ หน้าหนาวมาถึงแล้วนะครับ ถึงแม้ว่ามันจะไม่หนาวเท่าไหร่ แต่ว่าฤดูแห่งการท่องเที่ยว กางเต็นท์ก็มาถึงแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะไปหยิบเต็นท์ที่เก็บอยู่ในห้องเก็บของ เตรียมใส่กระเป๋าเป้หรือใส่รถ เอาออกไปใช้งานกัน  … แต่เดี๋ยวก่อน … ทำไมเต็นท์มันส่งกลิ่นเหม็น มีกลิ่นอับชื้น  แล้วแบบนี้จะเอาไปใช้งานได้อย่างไร …

เหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้กับนักเดินทางทุกท่าน เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการกำจัดกลิ่นอับชื้น กลิ่นเหม็น ในเต็นท์กันครับ แต่ก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเต็นท์นะครับ อุปกรณ์อื่นๆ เช่นเสื้อผ้า หรือกระเป๋าเป้แบ็คแพ็ค ก็สามารถเกิดอาการแบบนี้ได้ทั้งสิ้น

การทำความสะอาดเต็นท์ที่มีเชื้อรา

เชื้อราเติบโตได้ดีในบริเวณที่เปียกชื้น ผมคงไม่พูดถึงว่าทำไมเชื้อราถึงทำให้เกิดกลิ่นได้ เพราะมันคงไม่ใช่ปัญหาที่นักเดินทางอย่างเราอยากรู้ สิ่งที่ผมเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนอยากรู้คือ เราจะกำจัดกลิ่นที่เกิดจากเชื้อราออกไปได้อย่างไร ซึ่งคำตอบนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับว่า เชื้อรานั้นมันเติบโตอยู่บนเนื้อผ้ามากแค่ไหนแล้ว … บางครั้งเพียงแค่ใช้น้ำอุ่นผสมกับสบู่เช็ดก็สามารถกำจัดออกได้แล้วครับ ในขณะที่บ่อยครั้งก็กำจัดออกได้ด้วยการซัก ซึ่งการซักก็มักจะทำลายเส้นใยของผ้า โดยเฉพาะผ้าที่มีการเคลือบกันน้ำไว้ แบบผ้าเต็นท์ครับ

การบำรุงรักษาแบบพื้นบ้านก็คือ ใช้เกลือผสมกับน้ำมะนาวผสมกับน้ำแล้วเช็ดออก หรือใช้ น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเช็ด แต่ทาง Gear Aid ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ซ่อมแซมและทำความสะอาดอุปกรณ์เดินป่า แค้มปิ้ง ชื่อดังของอเมริกา แนะนำให้ใช้น้ำอุ่นและน้ำยาทำความสะอาดสูตรพิเศษของ Gear Aid รุ่น Revivex Pro Cleaner มาทำความสะอาด ซึ่งน้ำยาตัวนี้จะมีจุดเด่นตรงที่ไม่ทำความเสียหายให้กับสารเคลือบกันน้ำบนผ้าเต็นท์ของคุณครับ

ทาง Gear Aid มีเคล็ดลับมาแนะนำดังนี้ครับ

  • ห้ามซักเต็นท์ในเครื่องซักผ้า ตัวปั้่นในเครื่องซักผ้าจะทำความเสียหายให้กับผ้า สารเคลือบกันน้ำ และ เทปซีลตะเข็บ
  • โดยทั่วไปการทำความสะอาดเต็นท์ในขณะที่กางอยู่ หรือดึงให้ตึง จะทำได้ง่ายกว่ามาก
  • ล้างผ้าฟลายชีทด้วยมือเบาๆ ห้ามขัดหรือถูด้านในของฟลายชีท เพราะคุณอาจจะไปทำความเสียหายให้กับสารเคลือบกันน้ำที่เป็นโพลียูรีเทนที่อยู่ส่วนด้านในได้ (เต็นท์ส่วนใหญ่จะเคลือบกันน้ำด้วยโพลียูรีเทนด้านในครับ ทั้งส่วนที่เป็นฟลายชีท และเป็นผ้าชั้นใน )
  • ใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ และล้างออกด้วยน้ำ จนกว่าคราบสบู่จะหมดไป

การกำจัดกลิ่นของเต็นท์

หลังจากที่เราทำความสะอาดเต็นท์เรียบร้อยดีแล้ว เราก็จะพบว่า … กลิ่นอับชื้นที่เกิดจากเชื้อราอาจจะยังคงอยู่ได้ ในกรณีนี้เราสามารถใช้น้ำยา Revivex Odor Eliminator มาช่วยกำจัดกลิ่นได้ น้ำยาตัวนี้เกิดจากการผสมกันของจุลินทรีย์ซึ่งส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยและไม่ทำอันตรายต่อเนื้อผ้าหรือสารเคลือบกันน้ำ วิธีใช้เพียงแค่ผสมน้ำยา กับน้ำ เชื้อจุลินทรีย์ ก็จะทำงาน โดยการกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นบนผ้าเต็นท์

น้ำยา Odor Eliminator สำหรับกำจัดแบคทีเรีย จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดกลิ่น

น้ำยา Revivex Pro Cleaner สำหรับทำความสะอาดคราบสกปรก

ทาง Gear Aid แนะนำให้ใช้วิธีการกำจัดกลิ่นที่เกิดจากเชื้อราบนเต็นท์ ดังนี้

  • เติมน้ำในอ่างให้มีปริมาณมากพอที่จะแช่ผ้าเต็นท์ลงไปได้ทั้งหมด
  • สำหรับกลิ่นที่ติดแน่น ออกยาก ให้ใช้น้ำยา Revivex Odor Eliminator ขนาด 1 Oz (30 ml) ผสมกับน้ำทุกๆ 1 แกลลอน สำหรับกลิ่นที่ออกง่ายขึ้น ก็สามารถจะใช้น้ำยาแค่ 0.5 oz (15ml) ต่อน้ำ 1แกลลอน (3.8 ลิตร) คนผสมให้น้ำกับตัวยาเข้ากันให้ทั่ว
  • ปลดซิปทุกตัว ที่อย่บนผ้าเต็นท์ ให้เปิดออก
  • แช่ผ้าเต็นท์ลงไปในน้ำที่ผสม Odor Eliminator แล้ว โดยแช่ไม่เกิน 5 นาที เคล็ดลับคือให้ผ้าเต็นท์ชุ่มไปด้วยจุลินทรีย์ เพื่อให้เชื้อจุลินทรีย์ทำการกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นออกไป ห้ามล้างเต็นท์ เพราะถ้าทำเช่นนั้นเชื้อจุลินทรีย์ก็จะถูกล้างออกไปด้วย ห้ามใช้ความร้อน เพราะความร้อนก็สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้เช่นกัน ดีที่สุดคือ แช่่ลงไป แล้วเอาออกมาผึ่งลมให้แห้ง กลิ่นจะยังไม่หายไปในทันที ให้รอจนกว่าจะแห้งเต็มที่

เคล็ดลับอื่นๆ

  • Odor Eliminator จะมีประสิทธิภาพสูงสุด คือคือทันที่ที่ผสมกับน้ำ เพราะว่าเชื้อจุลินทรีย์ส่วนใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเวลาผ่านไปเชื้อจุลินทรีย์จะกินตัวเองทำให้ประสิทธิภาพของน้ำยาลดลง เพราะฉะนั้นให้เตรียมผ้าให้พร้อมก่อน เพื่อว่าเวลาที่ผสมน้ำยากับน้ำแล้ว จะสามารถแช่ผ้าลงไปได้ทันที และห้ามใช้น้ำยาเก่าที่ผสมไว้แล้ว
  • ยิ่งผ้าทิ้งไว้ให้แห้งนานเท่าไหร่ เชื้อจุลินทีรย์ก็สามารถที่จะทำหน้าที่ของมันได้ดีขึ้น ความร้อนจะฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และน้ำจะล้างเชื้อจุลินทรีย์ออก พยายามตากเต็นท์ให้สภาพอากาศที่เย็นและไม่โดนแสงแดดโดยตรง
  • น้ำยา Odor Eliminator ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี หรือส่วนผสมที่ทำให้เกิดอันตราย แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ก็ควรจะใช้ความระมัดระวังในขั้นตอนการแช่ผ้าเต็นท์ เนื่องจากว่าเต็นท์หลายตัวมีการเคลือบสารโพลียูรีเทนที่ด้านในของฟลายชีทและบนพื้นเต็นทน์เพื่อคุณสมบัติในการกันน้ำ การเคลือบกันน้ำนี้ไม่ได้อยู่ติดถาวร สารเคลือบจึงมีโอกาสที่จะหลุดร่อนออกมาได้ โดยเฉพาะกับผ้าที่เต็นท์ที่เปียกชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคลือบร่อนหลุดออกมา ห้ามแช่ผ้าเต็นท์นานกว่า 5 นาที
  • หากว่าผู้ใช้สังเกตุเห็นสารเคลือบรุ่นร่อนออกมา โดยปกติก็จะมีกลิ่นเหม็นคล้ายๆ กลิ่นอาเจียน หรือกลิ่นยูรีนออกมา ซึ่งมักจะเป็นกับเต็นท์ที่เคลือบกันน้ำหลุดร่อนออกมา หรือเต็นท์ที่มีอายุนานมากๆ น้ำยา Odor Eliminator จะไม่ได้ช่วยในกรณีนี้ จะช่วยแค่กำจัดกลิ่น

เพียงแค่ผสมน้ำยา Odor Eliminator ลงไปในน้ำ

การกำจัดสารโพลียูรีเทนที่หมดอายุออกจากเต็นท์

กลิ่นเหม็นไม่จำเป็นว่าจะต้องเกิดจากเชื้อราเท่านั้น บ่อยครั้งที่เต็นท์ส่งกลิ่นเหม็นเพราะว่าสารเคลือบกันน้ำโพลียูรีเทนที่เคลือบอยู่ด้านในของฟลายชีท หรือพื้นเต็นท์ เสื่อมสภาพและหลุดออกมา ซึ่งเราสามารถสังเกตุได้จากลิ่นเหม้นคล้ายกลิ่นอาเจียนในเต็นท์ หรือกลิ่นคล้ายยูรีน กลิ่นเหล่านี้เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดจากการแตกตัวของสารยูรีเทน

ผ้าเต็นท์ที่สารเคลือบกันน้ำโพลียูรีเทนเสื่อมสภาพ

การแก้ปัญหากลิ่นทีเกิดจากสารเคลือบโพลียูรีเทนหมดอายุ สามารถทำได้ดังนี้

  • วิธีการที่ดีที่สุด คือ เราต้องกำจัดสารเคลือบ PU ที่หลุดออกมาออกไป เพื่อกำจัดกลิ่นให้หมดไป เริ่มโดยการเติมน้ำอุ่นลงในภาชนะ โดยเติมให้เพียงพอที่จะแช่ผ้าลงไปให้หมด หลังกจากนั้นก็เติมสบู่เหลวลงไป 5 หยด
  • แช่เต็นท์ไว้ให้ทั่วราว 2-3 ชั่วโมง เอาเต็นท์ขึ้นจากน้ำและเช็ดเอาโพลียูรีเทนออกเบาๆ (ปกติจะอยู่ด้านในของฟลายชีท หรือด้านในของพื้นเต็นท์) โดยการใช้สารผสมของน้ำ และแอลกอฮอล์ทำความสะอาก กับสบู่ซัก 2-3 หยด
  • เมื่อกำจัดสารเคลือบกันน้ำเก่าออกหมดแล้ว เราสามารถทาสารเคลือบใหม่ โดยการใช้น้ำยา Seam Grip TF ทาเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ โดยทาที่ด้านในของพท้นเต็นท์ หรือ ด้านในของฟลายชีท แล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงให้แห้ง
  • เมื่อแห้งแล้วอาจโรยแป้งเด็กให้ทั่วเพื่อลดความเหนียว

ตอนนี้เต็นท์ของคุณก็จะเหมือนของใหม่แล้วครับ

น้ำยา Seam Grip TF สำหรับทาเคลือบกันน้ำเต็นท์

ตัวอย่างการทาเคลือบกันน้ำ หลังจากทำความสะอาดพื้นผิวแล้ว

การป้องกันไม่ให้เต็นท์เกิดกลิ่น

  • ผึ่งลมให้เต็นท์แห้ง ทันทีที่คุณกลับถึงบ้าน หลังจากออกทริป
  • อย่าเก็บเต็นท์ในสภาพเปียก ชื้น
  • เวลาที่เก็บเต็นท์ ให้เต็นท์มีการระบายอากาศ
  • เมื่อทำได้ตามนี้แล้ว เต็นท์ของคุณก็จะไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์อีก

ส่งท้าย

โดยสรุป วิธีการกำจัดกลิ่นเหม็นอับของเต็นท์ ก็มีตามที่ได้กล่าวไปครับ โดยจะเป็นวิธีการแก้ไข ถ้าเป็นกลิ่นที่เกิดจากแบคทีเรีย เชื้อรา ก็ใช้น้ำยา  Odor Eliminator  ช่วยกำจัด ในขณะที่ถ้าเกิดจากการเสื่อมสภาพของสารเคลือบกันน้ำเต็นท์ ก็ต้องล้างเอาสารเคลือบกันน้ำเดิมออก แล้วถ้าต้องการเคลือบกันน้ำใหม่ก็ใช้ Seam Grip TF ทาเคลือบใหม่ลงไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง 2 วิธีเป็นการแก้ไขกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว … วิธีการที่ดีที่สุดคือ การป้องกันครับไม่ให้เกิดตั้งแต่แรกครับ